วันจันทร์ที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2554

ปลูกฝังเรื่องการเรียนแบบครอบครัวญี่ปุ่น

วัฒนธรรมญี่ปุ่นสอนให้เคารพต่อสังคมและมีการสร้างแรงจูงใจให้อยู่รวมเป็นกลุ่มโดยให้รางวัลเป็นกลุ่มมากกว่าจะให้รางวัลเป็นบุคคล การศึกษาของญี่ปุ่นเน้นหนักในเรื่องความขยัน การตำหนิตนเอง และอุปนิสัยการเรียนรู้ที่ดี ชาวญี่ปุ่นถูกปลูกฝังว่าการทำงานหนักและความขยันหมั่นเพียรจะทำให้ประสพความสำเร็จในชีวิต โรงเรียนจึงอุทิศให้กับการสอนทัศนคติ คุณธรรม จริยธรรมให้กับนักเรียนทั้งทางตรงและทางอ้อม


เพื่อที่จะพัฒนาอุปนิสัยและมีเป้าหมายในการสร้างประชากรที่สามารถอ่านออกเขียนได้ และปรับตัวให้เข้ากับค่านิยมและวัฒนาธรรมของสังคมได้ เขามองว่า การศึกษาเป็นสิ่งที่น่าเคารพยกย่อง และความสำเร็จเป็นเงื่อนไขสำคัญสำหรับการประสบความสำเร็จในงานและในสังคม ที่กล่าวคือปัจจัยหลักในการเสริมสร้างความฉลาดแบบคนญี่ปุ่น ซึ่งบ้านเราเองก็สามารถนำมาปรับใช้และสร้างให้เด็กของเรามีความฉลาดในแบบของเราเองได้เช่นกันนะคะ


Tips เพิ่มความฉลาดให้กับลูกน้อย

• รับประทานอาหารตามหลักโภชนาการ เช่น ปลาเต้าหู้
• อาหารมื้อเที่ยงสำคัญ เด็กๆ ควรกินให้ครบ 5 หมู่ และถูกหลักโภชนาการ
• ดื่มนมเป็นประจำอย่างต่อเนื่อง เพราะมีสารอาหารที่ช่วยในการพัฒนาสมอง เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ดีต่อการเจริญเติบโตของร่างการ
• เลี้ยงลูกแบบให้เวลาและทำทุกอย่างเองให้กับลูกอย่างเต็มที่ด้วยความภูมิใจและเต็มใจ
• สอนให้เคารพต่อสังคมและมีการสร้างแรงจูงใจให้อยู่รวมเป็นกลุ่ม สร้างอุปนิสัยการเรียนรู้ที่ดี

กลับไปวันหยุดคริสต์มาส, วันเกิดและวันหยุด. ๆ ของเราสงสัยว่า ของเล่นปลอดภัย การให้ลูกคุณ?

การเลือกของเล่นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก???

จากหนึ่งปีเพื่อ

Manhattan Toy Winkel Safe toys
ของเล่นอยู่ในหมู่ผู้ซื้อที่สำคัญที่สุดและเพื่อซื้อพวกเขาควรจะได้รับการพิจารณาอย่างรอบคอบ. ใช้เวลาของคุณและอย่าซื้อสิ่งแรกที่คุณเข้าใจโดยสัญชาตญาณ. เลือกอย่างระมัดระวังและสะท้อนให้เห็นถึงในจุดต่อไปนี้:

ของเล่นสำหรับเด็กวัยหัดเดิน Safe

อ่านต่อ

คำค้นหาที่เข้ามา:

  • ของเล่นปลอดภัย เพื่อให้สำหรับเด็กเล็ก
  • ของเล่นที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก
1 Star2 Stars3 Stars4 Stars5 Stars (ยังไม่มีการให้คะแนน)
Loading ... กำลังโหลด ...

กิจกรรมสำหรับเด็กที่บ้าน

กิจกรรมสำหรับเด็ก
วันหยุดเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมสำหรับครอบครัว. เด็กไม่ควรดูทีวีและเล่นเกม. ควรจะมีกิจกรรมกลางแจ้งบาง. เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง. ลองมาดูกิจกรรมที่น่าสนใจ. สนุกด้วยกันที่บ้านของเรา.
ทรายเล่น
ทรายเล่นเป็นกิจกรรมราคาถูก. เด็กมีความสนุกสนานและเล่นหลายคน. เด็ก ๆ จะได้สนุกกับการเล่นกับจินตนาการทราย. ผู้ปกครองควรแนะนำเด็ก. ระวังทรายในตาของคุณ. อย่าตักทรายจากเพื่อนหัว.
fun activities
กิจกรรมสนุก ๆ
อ่านต่อ

คำค้นหาที่เข้ามา:

  • บ้านเป่าลม little tikes
1 Star2 Stars3 Stars4 Stars5 Stars (1 คะแนนโหวต, ค่าเฉลี่ย: 5.00 ออกมาจาก 5)
Loading ... กำลังโหลด ...

วันอาทิตย์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2554

ประเภทและอันตรายจากแป้งฝุ่น

ประเภทและอันตรายจากแป้งฝุ่น
แป้งฝุ่น เป็นเครื่องสำอางประเภทหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในทุกสภาพอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อากาศอบอ้าว แป้งฝุ่นโรยตัวจะช่วยให้รู้สึกสบายตัวหลังอาบน้ำลดการเหนียวเหนอะหนะของผิว หนัง นอกจากนี้แป้งฝุ่นโรยตัวที่มีส่วนผสมของเมนทอลจะได้รับความนิยมมาก เพราะจะช่วยให้รู้สึกเย็นสดชื่น นอกจากจะนิยมใช้แป้งฝุ่นโรยตัวหลังอาบน้ำแล้วยังอาจใช้ภายหลังโกนหนวดเพื่อ กลบหรือเคลือบผิวหนังที่โกนใหม่ ๆ ให้ดูเรียบร้อยขึ้น และลดการระคายเคืองได้
แป้งฝุ่นโรยตัวแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1. แป้งฝุ่นโรยตัวเด็ก
2. แป้งฝุ่นโรยตัวทั่วไป
คำนิยามของ "แป้งฝุ่นโรยตัว" นั่นหมายถึง สิ่งปรุงที่มีลักษณะเป็นผงละเอียด หรืออนินทรีย์ที่ไม่ละลายน้ำซึ่งอาจแต่งกลิ่นหรือสี หรือแต่งทั้งกลิ่นและสีเพื่อใช้กับร่างกายหรือเสริมความงาม
แป้งฝุ่นโรยตัวเด็ก ใช้สำหรับโรยตัวทารก (อายุตั้งแต่แรกเกิดถึง 2 สัปดาห์) เด็กอ่อน(ตั้งแต่ 2 สัปดาห์จนถึง1ปี)และเด็กเล็ก (1-4 ปี) เพื่อดูดซับความเปียกชื้นของผิวหนังช่วยหล่อลื่นผิวหนังป้องกันการระคาย เคืองจากผ้าอ้อม หรือเครื่องนุ่งห่ม ดังนั้นจะพบว่าแป้งฝุ่นโรยตัวเด็กมีความละเอียดมากและจะต้องมีความ ปลอดภัยสูง เช่น ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ไม่ทำให้ผิวหนังบวมแดง และต้องมีคุณสมบัติตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข ออกตามความในพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. 2535 ดังนี้
ต้องไม่มีวัตถุห้ามใช้หรือวัตถุใดหรือสารใดที่เป็นอันตรายหรือไม่ปลอดภัยใน การใช้และใช้สีผสมที่ถูกต้อง ต้องไม่มีสารปนเปื้อน เว้นแต่ สารหนูให้มีปนเปื้อนได้ไม่เกิน 5 ส่วนในล้านส่วน โดยน้ำหนัก โซลูเบิลแบเรียมให้มีปนเปื้อนได้ไม่เกินร้อยละ 0.5 โดยน้ำหนัก ปรอทให้มีปนเปื้อนได้ไม่เกิน0.5 ส่วนในล้านส่วนโดยน้ำหนัก ตะกั่วให้มีปนเปื้อนได้ไม่เกิน 20 ส่วนในล้านส่วนโดยน้ำหนัก ต้องไม่มีกรดบอริกและ/หรือเกลือบอเรต เมนทอล การบูร และต้องไม่มีสปอร์ดูดขน
นอกจากอันตรายจากสารพิษต่าง ๆ แล้ว เชื้อจุลินทรีย์ในแป้งฝุ่นโรยตัวนั้นก็อาจก่อให้ เกิดอันตรายต่อผู้บริโภคได้เช่นกัน เช่น
สตาฟิโลคอกคุสออเรอุส เป็นเชื้อจุลินทรีย์รูปกลม อยู่รวมกันเป็นกลุ่ม อาศัยอยู่ตามผิวหนัง ลำคอ จมูก และลำไส้ของคน เป็นต้น ต้นเหตุสำคัญที่สุดในการเกิดหนอง ฝี สิว ถ้าผิวหนังมีบาดแผลหรือรอยถลอก เชื้อนี้จะสามารถเข้าสู่ร่างกายทางบาดแผลนี้และทำให้เกิดหนองหรือถ้าในภาวะ ที่ร่างกายมีความต้านทานต่ำ เชื้อนี้ก็จะเข้าแทรกซ้อนได้
ซาลโมเนลลา เป็นเชื้อจุลินทรีย์รูปแท่ง พบในลำไส้ของคนและสัตว์ สามารถสร้างท๊อกซินทำให้เกิดอาการไข้และโรคอาหารเป็นพิษ ทางสาธารณสุขจัดเชื้อ ซาลโมเนลลาเป็นเชื้อที่มีอันตรายร้ายแรง
ซูโดโมนาสแอรูจิโนซา เป็นเชื้อจุลินทรีย์ชนิดแท่ง อาศัยอยู่ในน้ำ ดิน ของเน่าเสีย บางครับพบในลำไส้ของคนและสัตว์ เชื้อนี้มักจะแทรกซ้อน เช่น กรณีร่างกายได้รับอุบัติเหตุ เกิดบาดแผล หรือรับการผ่าตัด ร่างกายจะมีความต้านทานน้อยลง เมื่อได้รับเชื้อนี้เข้าไปอาจทำให้ถึงตายได้ ซูโดโมนาส นี้ยังดื้อต่อยาฆ่าเชื้อโรคบางชนิดได้ ดังนั้น จึงเป็นเชื้อที่ทำให้เกิดอาการแทรกซ้อนได้ง่าย
โคสตริดิอุม เป็นเชื้อจุลินทรีย์รูปแท่งนี้ไม่ต้องใช้ออกซิเจนในการเจริญเติบโตเป็น สาเหตุของการเกิดเน่าตายของเนื้อเยื่อ นอกจากนี้ยังทำให้เกิดการติดเชื้อที่อวัยวะหลาย ๆ แห่ง เช่น ระบบอวัยวะสืบพันธุ์และกระเพาะปัสสาวะ และทำให้เกิดอาหารของโรคอาหารเป็นพิษนอกจากนี้ อันตรายที่เกิดจากมีสารข้ามใช้เกินมาตรฐาน ตลอดจนการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์แล้ว ส่วนประกอบอื่น ๆ ก็ไม่ควรมองข้ามไป เช่น ภาชนะบรรจุ ควรจะต้องสะอาดถูกสุขลักษณะ ไม่เป็นสาเหตุของการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ และสารต่าง ๆ ควรมีการป้องกันการปนเปื้อนของฝุ่นละออง ในขณะที่วางจำหน่ายในท้องตลาด เพื่อให้ผลิตภัณฑ์นั้นได้มาตรฐานจนถึงมือผู้บริโภค
การที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนดสัดส่วนและห้ามใช้สารบางชนิดผสมในแป้งฝุ่นโรย ตัวเพราะสารเหล่านั้นมีอันตรายหรือพิษภัยซึ่งพอจะสรุปได้ดังนี้
1. สารหนู เป็นธาตุชนิดหนึ่งที่ปะปนอยู่กับแร่ธาตุอื่น ๆ มักใช้เป็นส่วนผสมในการกำจัดแมลงผสมในสี หรือแม้แต่ในกระดาษปิดฝาผนัง ถ้าได้รับและสะสมอยุ่ในร่างกายปริมาณมากจะทำให้เกิดการเจ็บป่วยแบบเรื้อรัง ซึ่งอาการของโรคมักแสดงออกทางผิวหนังทำให้ผิวหนังมีสีดำที่รู้จักกันว่า "ไข้ดำ" มีการหนาของผิวหนัง อาการอื่นได้แก่ ปวดท้อง ท้องอืด ท้องร่วง ซีด ชาตามปลายมือปลายเท้า ถ้าได้รับติดต่อกันเป็นเวลานานจะมีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งของปอดตับ กระเพาะปัสสาวะตลอดจนมะเร็งเม็ดเลือด
2. โซลูเบิลแบเรียม มักใช้เป็นส่วนผสมในสารกำจัดศัตรูพืช แบเรียมสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางปาก ถ้าได้รับจำนวนมากเป็นเวลานานจะทำให้ตึงบริเวณกล้ามเนื้อของใบหน้า คอ อาจมีการอาเจียน ปวดท้อง อ่อนเพลีย หัวใจวาย และเสียชีวิตได้
3. ปรอท เป็นธาตุที่เป็นของเหลว สารประกอบของปรอทใช้เป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สี เครื่องไฟฟ้า เป็นต้น ปรอทสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางปากและการสูดดม ถ้าได้รับติดต่อกันนานจะเกิดสะสมในร่างกาย จะทำให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ไต ระบบทางเดินปัสสาวะ รวมทั้งระบบประสาท
4. ตะกั่ว ส่วนประกอบของตะกั่วนิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น สี แบตเตอรี่ของเล่น หรือในน้ำมันเชื้อเพลิง ตะกั่วสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทั้งทางปาก การหายใจหรือโดยการสัมผัส ถ้าได้รับติดต่อกันนาน ๆ จะทำให้เกิดการสะสมของตะกั่ว และทำให้เกิดอันตรายต่อระบบทางเดินอาหาร ระบบเลือด และระบบประสาทส่วนกลางโดยเฉพาะทารกและเด็กเล็กจะได้รับพิษรวดเร็วและอาจ รุนแรงถึงพิการทางสมองได้ ซึ่งมีโอกาสที่จะพิการตลอดชีวิตถึงร้อยละ 50 เมื่อตะกั่วเข้าสู่ร่างกายจะถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบไหลเวียนโลหิตไปจับกับเม็ด เลือด ทำให้เกิดอาการโลหิตจาง ตะกั่วบางส่วนไปสะสมในกระดูกโดยเข้าแทนที่แคลเซี่ยม ซึ่งเป็นโลหะที่จำเป็นในการสร้างกระดูกและฟัน ทำให้มีอาการปวดตามข้อ กระดูกผุ อาจสะสมที่รากฟันและทำให้เกิดเส้นสีดำหรือสีม่วงบริเวณเหงือก เรียกเส้นตะกั่วและสามารถสะสมในไขมัน ระบบประสาท สมอง คลื่นไส้อาเจียน ท้องร่วง มีอาการทางประสาท กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย ปวดและเป็นตะคริว โดยเฉพาะที่ขา ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ ประสาทสัมผัสผิดปกติ เซื่องซึมและอาจตายได้
5. กรดบอริก ใช้เป็นสารระงับเชื้อ ยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์และทำให้แป้งลื่นไม่ติดกันกรดบอริก สามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางปาก และทางผิวหนัง จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง มีไข้ปัสสาวะไม่ออก
แป้งฝุ่นโรยตัวโดยทั่วไป ใช้โรยตัวได้ทุกวัย (ยกเว้นเด็กอ่อน เด็กทารก และเด็กเล็ก) เพื่อช่วยให้รู้สึกสดชื่น ทำให้ผิวลื่น ลดความเหนียวเหนอะหนะของผิวกาย นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันการเสียดสีของผิวหนังกับเครื่องนุ่งห่ม ส่วนประกอบที่สำคัญได้แก่ แป้งทัลคัมและน้ำหอม แป้งทัลคัมจะช่วยทำให้ผิวลื่น รู้สึกสบายตัวและมีคุณสมบัติในการปกคลุมผิว ดูดซับได้ที ทัลคัมมีหลายชนิดชนิดที่ใช้เป็นส่วนผสมในแป้งฝุ่นโรยตัวจะต้องมีคุณสมบัติ ตามเภสัชตำรับน้ำหอมชนิดที่ใช้ผสมในแป้งฝุ่นนั้นจะต้องมีคุณสมบัติที่ดีไม่ มีการเปลี่ยนแปลงเหม็นหืน หรือทำให้หสีของผลิตภัณฑ์เปลี่ยนแปลงและที่สำคัญที่สุดคือติ้งไม่ทำให้เกิด การแพ้แก่ผู้บริโภคด้วยแป้งฝุ่นโรยตัวบางชนิดอาจมีส่วนผสมของสารระงับเชื้อ เช่น สารส้ม หรือกรดบอริกผสมอยู่ด้วย เพื่อช่วยรักษาโรคผิวหนังบางชนิดซึ่งส่วนผสมของสารเหล่านี้จะต้องมีปริมาณ ไม่เกินที่กำหนดในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เช่น กรดบอริก ต้องมีไม่เกินร้อยละ 3.0 โดยน้ำหนัก เมนทอล ต้องมี ไม่เกินร้อยละ 1.0 โดยน้ำหนัก การบูร ต้องมีไม่เกินร้อยละ 1.5 โดยน้ำหนัก นอกจากนี้ทั้งแป้งฝุ่นโรยตัวเด็ก และแป้งโรยตัวทั่วไป จะต้องมีคุณสมบัติทางจุลชีววิทยาตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในประกาศ กระทรวงสาธารณสุข
ข้อควรระวังในการใช้แป้งโรยตัวเด็ก ไม่ควรเทแป้งลงบนตัวเด็ก โดยตรงเพราะอาจจะทำให้ฝุ่น ผงละอองของแป้งกระจายเข้า จมูกและปากเด็กได้ อันอาจเป็น อันตรายต่อทางเดินหายใจ และถ้า ผลิตภัณฑ์นั้นไม่ได้มาตรฐานมีสาร พิษปนเปื้อนอยู่ก็จะทำให้เด็กได้รับ สารพิษโดยตรง
ข้อควรแนะนำในการซื้อผลิตภัณฑ์แป้งฝุ่นโรยตัวตัว
1. ควรเลือกซื้อชนิดที่ภาชนะบรรจุอยู่ในสภาพเรียบร้อยไม่บุบ หรือฉลากเลอะเทอะเห็นไม่ชัด มีแผ่นกระดาษกาวหรือแผ่นพลาสติกหุ้มบริเวณฝาที่ใช้เทแป้ง
2. เมื่อใช้แป้งฝุ่นโรยตัวทุกครั้ง ควรปิดฝาให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันการปนเปื้อนของฝุ่นละอองพลัดตกลงไปในภาชนะบรรจุ
3. เมื่อใช้แป้งฝุ่นโรยตัวแล้ว พบว่ามีสีและกลิ่นของแป้งเปลี่ยนไปควรหยุดใช้ เพราะอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์
4. ไม่ควรซื้อแป้งฝุ่นโรยตัวเด็ก ชนิดที่ตักแบ่งเพราะไม่ถูกสุขลักษณะอาจมีการปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์

วันจันทร์ที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2554

เล่นกับเพื่อน...พัฒนาวัยคิดส์ได้ทุกด้าน

    เล่นกับเพื่อน...พัฒนาวัยคิดส์ได้ทุกด้าน

เล่นกับเพื่อน...พัฒนาวัยคิดส์ได้ทุกด้าน
โดย: อาราดา



เรา รู้กันอยู่แล้วว่าเด็กๆ นั้นจะสามารถเรียนรู้ได้ดีผ่านการเล่น ยิ่งถ้าได้เล่นกับเพื่อนๆ ด้วยแล้ว จะช่วยพัฒนาทักษะได้มากมาย ทั้งสังคม อารมณ์ และจิตใจเลยล่ะค่ะ

เพื่อน เป็นสิ่งสำคัญสำหรับเด็กทุกคน การได้เล่นกับเพื่อน จะช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ได้อย่างสนุกสนาน เด็กที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี มีเพื่อนเยอะแยะจะมีความมั่นใจในตนเองค่ะ ที่สำคัญความสัมพันธ์อันดีระหว่างเพื่อนนี้จะช่วยให้เด็กๆ เรียนรู้ที่จะปรับตัวเข้ากับสิ่งต่างๆ ได้อย่างง่ายดายด้วย

เล่นกับเพื่อน..ดี มีประโยชน์
ช่วยพัฒนาความสัมพันธ์ เมื่อ เด็กๆ เล่นด้วยกัน พวกเขาจะมีการแบ่งปัน ร่วมมือกัน และจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นร่วมกัน แม้บางครั้งอาจมีเรื่องไม่ลงรอยเกิดขึ้น แต่สุดท้ายเด็กๆ ก็จะเรียนรู้และหาวิธีจัดการกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้เอง ผู้ใหญ่จึงไม่ควรรีบเข้าไปจัดการกับปัญหาแทนเด็ก
ยก เว้นกรณีที่มีการใช้กำลังตัดสินปัญหา คุณพ่อคุณแม่ต้องรีบเข้าไปแยกทันทีและอธิบายให้เข้าใจว่า การใช้กำลัง เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ ไม่เป็นที่ยอมรับ และเพื่อนไม่ทำกับเพื่อนค่ะ
ฝึกเลียนแบบบทบาทคนรอบข้าง เด็กๆ ชอบเล่นบทบาทสมมติทั้งนั้นค่ะ โดยเขาจะเลียนแบบพฤติกรรม การแสดงออก สีหน้าท่าทาง การทำงาน จากที่เห็นในชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูก อธิบายให้ลูกรู้ว่าพฤติกรรมของคนรอบข้างที่ลูกได้เห็น แบบไหนทำได้ และแบบไหนที่ไม่ควรทำ
เสริมความมั่นใจไม่ ว่าที่ไหนก็กล้าคิด กล้าพูด ขณะที่เด็กๆ เล่นกัน เขามีโอกาสที่จะเป็นผู้นำในการเล่น ร่วมกันปรึกษาหารือ แสดงความเห็น หรือแม้กระทั่งพูดโน้มน้าวเพื่อนๆ ให้คล้อยตาม ทั้งได้พัฒนาทักษะในการจัดการปัญหา
ดังนั้นการเล่นเป็นกลุ่ม หรือทำกิจกรรมกลุ่มนี้ จะทำให้เด็กๆ กล้าแสดงออก รู้จักเป็นผู้นำ ผู้ตาม เป็นตัวแทนกลุ่มได้
+ ค้นพบตัวเอง เด็กๆ จะทำแต่สิ่งที่ตนเองสนใจ พวกเขาอาจสร้างกองดิน วาดภาพ สำรวจโลกรอบตัว สร้างสรรค์ชิ้นงาน อ่านหนังสือ ฟังดนตรี เล่นกีฬา ฯลฯ การปล่อยให้เด็กๆ ได้คิดทำ คิดเล่นอะไรด้วยตัวเอง จะทำให้เขารู้ถึงความสามารถ และความสนใจเฉพาะของตัวเอง
ฉะนั้น อย่าบังคับให้ลูกทำในสิ่งที่คุณสนใจ แต่ปล่อยให้เขาได้หาโอกาสสำรวจตัวเองว่าจริงๆ แล้วเขาต้องการอะไร อยากทำอะไร แล้วสนับสนุนให้เขาทำตามนั้น
พัฒนาทักษะการสื่อสาร ขณะ ที่เด็กๆ เล่นด้วยกันจะมีการพูดคุยปฏิสัมพันธ์อยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะทางภาษาให้แข็งแรงขึ้น อีกทั้งยังมีการคิดหาคำตอบด้วยตัวเอง รู้จักสอบถามเพื่อน หรือเด็กคนอื่น ซึ่งเป็นทักษะสำคัญในกระบวนการเรียนรู้ของมนุษย์อีกด้วย
..................................................

เตรียมพร้อมก่อนลุยเล่น
ก่อนให้ลูกเล่นกับเพื่อน คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมการนิดหน่อย เพื่อป้องกันความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้นตามมา ดังนี้...
สอนทักษะทางสังคมเบื้องต้น
การสอนทักษะทางสังคมให้กับลูกทำได้ง่ายๆ เพียงแค่...
- แสดงให้ลูกเห็นพฤติกรรมที่คุณแสดงออกทางสังคม ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เขาเกิดการพัฒนาตนเอง เช่น การฟัง การประนีประนอม การทำงานท่ามกลางความขัดแย้ง การเอาใจเขามาใส่ใจเรา เป็นต้น
- เล่นกับลูก ทำให้ลูกคุ้นเคยกับการเล่นแบบหมู่คณะ ขณะเล่นควรมีการแสดงความคิดเห็น และแบ่งปันสิ่งของให้แก่กัน
- สอนการทักทายขั้นพื้นฐาน เช่น สวัสดี ลาก่อน และการยิ้ม เป็นต้น
เลือกของเล่นให้เหมาะสม
เลือก ของเล่นและอุปกรณ์ในการเล่นที่เหมาะสมกับวัย ระลึกไว้เสมอว่า เด็กวัย 3-6 ปีนี้ บางคนยังไม่สามารถทำใจยอมรับเรื่องการแบ่งปันสิ่งของให้กับคนอื่นได้ จึงควรหาของเล่นที่ลูกสามารถเล่นคนเดียว และแบ่งกันเล่นกับเพื่อนได้ มาค่อยๆ ฝึกให้ลูกรู้จักการแบ่งปัน ซึ่งของเล่นที่เหมาะสมก็คือ...
- อุปกรณ์วาดภาพ ระบายสี
- หนังสือ ตัวต่อไม้ เลโก้
- ของเล่นที่เป็นเครื่องดนตรี
- ของเหลือใช้ที่สามารถนำมาเล่นบทบาทสมมติ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า ชุดทำครัว ที่ไม่ใช้แล้ว
สถานที่เล่นสะดวก สนุก
หาก คุณชวนเพื่อนๆ ของลูก หรือเด็กคนอื่นมาเล่นที่บ้าน คุณสามารถเตรียมสภาพแวดล้อม เพื่อช่วยให้การเล่นของลูกและเพื่อนสนุกสนานยิ่งขึ้น ดังนี้ค่ะ
- พื้นที่ซึ่งมีขนาดใหญ่เพียงพอ ไม่แน่นหรืออึดอัดจนเกินไป
- อุปกรณ์การเล่นเพียบพร้อม เพียงพอที่เด็กๆ จะเลือกทำกิจกรรม และสร้างสรรค์กิจกรรมการเล่นด้วยตัวเอง

กิจกรรมสนุก ปลูกทักษะรอบด้าน
มีกิจกรรมสนุกๆ มาแนะนำค่ะ รับรองว่า...กิจกรรมเหล่านี้จะช่วยเสริมทั้งพัฒนาการ และทักษะการเข้าสังคมให้กับลูกได้เป็นอย่างดี
เครื่องดนตรีแสนสนุก
ส่ง เสริมให้ลูกเล่นเครื่องดนตรีชนิดต่างๆ ร่วมกัน แต่ไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องดนตรีจ๋า ประเภทกีตาร์ กลอง ฉิ่ง หรอกค่ะ หาพวกกระป๋องใส่ถั่วเขียวทำเป็นเครื่องดนตรีเขย่า กระทะกลายสภาพมาเป็นกลองก็สนุกกันได้ ไม่ต้องวิ่งหาของจริงให้เหนื่อย แถมลูกยังรู้จักดัดแปลงอีกด้วย
ศิลปะสุดหรรษา
ศิลปะ เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เด็กรู้จักการแบ่งปันได้อย่างค่อยเป็นค่อยไป ปล่อยให้เด็กๆ ได้วาด ระบายสิ่งต่างๆ บนกระดาษแผ่นใหญ่ พร้อมดินสอสีกล่องเดียว ที่พวกเขาจะต้องแบ่งกันใช้ คุณอาจเห็นว่าภาพแต่ละภาพที่พวกเขาวาดอาจแตกต่าง แต่สุดท้าย สิ่งที่จะได้เรียนรู้คือการเอื้ออาทร แบ่งปัน แถมยังได้เรื่องมิตรภาพจากการพูดคุยถึงสิ่งที่วาดกันอย่างสนุกสนานค่ะ
ปาร์ตี้แฟนซีเสื้อผ้าพ่อแม่
กล่อง ใส่เสื้อผ้าหลากชุดที่เหลือใช้แล้วของคุณ สามารถนำมาทำเป็นกิจกรรมให้เด็กๆ สนุกได้ ลองหาลังใบใหญ่ มาใส่เสื้อผ้าชุดเก่า หมวก ถุงมือ ถุงเท้า ฯลฯ ให้เด็กๆ เล่นสิคะ รับรองคุณจะได้ยินเสียงหัวร่อต่อกระซิกจากเด็กๆ ที่ได้เอาเสื้อผ้าชุดเก่าของคุณแม่ หรือเชิ้ตตัวเก่าของคุณพ่อมาสวมใส่เล่น จนเพลินเชียล่ะ
ตัวต่อพาเพลิน
ตัว ต่อไม้ หรือของเล่นพลาสติก เป็นที่โปรดปรานของเด็กวัยคิดส์ทุกคนค่ะ ปล่อยให้พวกเขาได้ล้อมวงเล่น หยิบยื่นตัวต่อให้กัน ช่วยกันต่อก่อเป็นรูปร่างตามจินตนาการ จะช่วยฝึกให้เด็กๆ รู้จักการยอมรับความคิดคนอื่น และช่วยเหลือกันและกันได้ดีค่ะ
กีฬา กีฬา เป็นยาวิเศษ
อะไร จะสนุกไปกว่าการเล่นฟุตบอล วิ่งไล่จับกับเพื่อนๆ อีกล่ะคะ การเล่นกีฬาจะทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้จักการแพ้ ชนะ การให้อภัย ช่วยพัฒนาทักษะทางสังคม และลูกยังได้ออกกำลังกายด้วยค่ะ
ถึง แม้จะมีกิจกรรมต่างๆ มากมายเพื่อเสริมทักษะสังคมให้กับลูก แต่ต้องยอมรับว่า มนุษย์ไม่สามารถเป็นเพื่อน หรือเล่นกับทุกคนที่เพิ่งพบเจอค่ะ

เพราะ ฉะนั้น พยายามหลีกเลี่ยงการบังคับเมื่อลูกไม่พร้อม เพราะการเรียนรู้ทักษะทางสังคม การสร้างสัมพันธ์ระหว่างบุคคล เกิดขึ้นได้ตลอดชีวิต อย่าคาดหวังมากเกินไป ควรใช้วิธีค่อยเป็นค่อยไป ทักษะเหล่านี้ก็จะค่อยๆ พัฒนาขึ้นค่ะ




จาก:นิตยสารรักลูก